PURE SAFEMODE
mission-ransomeware-impossible
        หัวใจสำคัญของการปกป้องข้อมูลจากแรนซัมแวร์ Pure SafeMode™ บน FlashArray และ FlashBlade FlashArray และ FlashBlade เป็น All-Flash Storage สำหรับจัดเก็บและสำรองข้อมูลประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการทำ SafeMode Snapshot ช่วยให้สามารถสำรองข้อมูลและ Metadata ที่เกี่ยวข้องในรูปของ Snapshots เป็นแบบ Read-only ได้ ซึ่งจุดนี้เองทำให้แรนซัมแวร์ไม่สามารถเข้ารหัสหรือทำลายไฟล์ข้อมูลที่ Snapshot ไว้ได้ โดยปกติแล้วแรนซัมแวร์จะเริ่มจากการเจาะเข้าไปในระบบก่อนเพื่อค้นหาช่องโหว่ จากนั้นจะทำการเข้ารหัสข้อมูลและเรียกร้องให้จ่ายเงินเพื่อแลกกับกุญแจสำหรับปลดล็อครหัส และในขณะเดียวกันจะเข้ารหัสหรือลบ snapshot และข้อมูลสำรอง เพื่อทำให้ไม่สามารถกู้คืนข้อมูลกลับไปยังเวลาก่อนการถูกโจมตีได้ แต่ Pure SafeMode™ จะปกป้อง snapshot และข้อมูลที่เก็บสำรองไว้ด้วย time-based eradication policies ไม่ให้ถูกลบ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเข้ารหัส ถึงแม้ผู้โจรกรรมจะได้สิทธิ์เป็นระดับ administrator ก็ตาม ในกรณีที่แรนซัมแวร์โจมตีได้สำเร็จ เราสามารถเริ่มขั้นตอนกู้คืนข้อมูลได้ โดยเลือก snapshot ที่ได้จากการเปิด SafeMode ไว้ และสามารถลบข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกเข้ารหัสทิ้งได้ จากนั้นทำการกู้คืน volume จาก snapshot ที่เกิดก่อนถูกโจมตี ทำให้ธุรกิจสามารถกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
PURE SAFEMODE
mission-ransomeware-impossible
        หัวใจสำคัญของการปกป้องข้อมูลจากแรนซัมแวร์ Pure SafeMode™ บน FlashArray และ FlashBlade FlashArray และ FlashBlade เป็น All-Flash Storage สำหรับจัดเก็บและสำรองข้อมูลประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการทำ SafeMode Snapshot ช่วยให้สามารถสำรองข้อมูลและ Metadata ที่เกี่ยวข้องในรูปของ Snapshots เป็นแบบ Read-only ได้ ซึ่งจุดนี้เองทำให้แรนซัมแวร์ไม่สามารถเข้ารหัสหรือทำลายไฟล์ข้อมูลที่ Snapshot ไว้ได้ โดยปกติแล้วแรนซัมแวร์จะเริ่มจากการเจาะเข้าไปในระบบก่อนเพื่อค้นหาช่องโหว่ จากนั้นจะทำการเข้ารหัสข้อมูลและเรียกร้องให้จ่ายเงินเพื่อแลกกับกุญแจสำหรับปลดล็อครหัส และในขณะเดียวกันจะเข้ารหัสหรือลบ snapshot และข้อมูลสำรอง เพื่อทำให้ไม่สามารถกู้คืนข้อมูลกลับไปยังเวลาก่อนการถูกโจมตีได้ แต่ Pure SafeMode™ จะปกป้อง snapshot และข้อมูลที่เก็บสำรองไว้ด้วย time-based eradication policies ไม่ให้ถูกลบ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเข้ารหัส ถึงแม้ผู้โจรกรรมจะได้สิทธิ์เป็นระดับ administrator ก็ตาม ในกรณีที่แรนซัมแวร์โจมตีได้สำเร็จ เราสามารถเริ่มขั้นตอนกู้คืนข้อมูลได้ โดยเลือก snapshot ที่ได้จากการเปิด SafeMode ไว้ และสามารถลบข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกเข้ารหัสทิ้งได้ จากนั้นทำการกู้คืน volume จาก snapshot ที่เกิดก่อนถูกโจมตี ทำให้ธุรกิจสามารถกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว


บทความทั้งหมด
บทความทั้งหมด